แนวข้อสอบปลายภาค 30 คะแนน
1. ปรนัย 40 ข้อ 20 คะแนน (แนวข้อสอบอยู่ในแบบฟอร์มข้อสอบด้านล่าง 40 ข้อ)
2. อัตนัย 2 ข้อ 10 คะแนน เนื้อหาข้อสอบ อยู่ในปฏิบัติการส่องเซลล์พืช
เนื้อหาอ่านสอบเพิ่มเติม
@@@@@@

ปากใบของพืช คืออะไร? ทำหน้าที่สำคัญอะไร?


______________________
ความหมาย
            ปากใบ (stomata) คือ รูที่อยู่ระหว่างเซลล์คุม (guard cell) ที่ควบคุมการเปิดปิดของปากใบ
            ปากใบของพืช (stomata)  มีหน้าที่สำคัญคือเป็นทางเข้าออกของน้ำและอากาศของพืชโดยตรง ซึ่งปากใบของพืชส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านล่างผิวใบของพืช เพราะเป็นที่รู้จักกันคือพืชต่างๆจะสังเคราะห์แสงได้ดีในช่วงที่มีแสงแดดมาก ปากใบจึงต้องอยู่ด้านล่างของพืช และผิวใบด้านบนของพืชก็จะมีสารคิวทินเคลือบอยู่หนา ซึ่งก็จะช่วยลดการคายน้ำออกทางปากใบพืชได้อีกทางหนึ่ง
            ปากใบของพืช (stomata) เป็นเซลล์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษเรียกว่าเซลล์คุม (guard cell) มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วสองอันประกบกัน และมีเซลล์ประกอบ (subsidiary cell) อยู่โดยรอบปากใบเป็นช่องทางให้น้ำแพร่ออกจากช่องว่างภายในใบสู่อากาศ และขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางให้คาร์บอนไดออกไซด์แพร่จากอากาศเข้าสู่ช่องว่างภายในใบได้ ปากใบมีอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของแผ่นใบ 
            พืชส่วนใหญ่จะมีจำนวนปากใบด้านล่างของแผ่นใบมากกว่าด้านบน ผิวของแผ่นใบจะมีไขมันเคลือบอยู่หนาเพื่อลดการคายน้ำ ใบพืชจะมีจำนวนและขนาดของปากใบกระจายทั่วแผ่นใบไม่สม่ำเสมอกัน ปากใบไม่ได้มีอยู่เฉพาะบนแผ่นใบเท่านั้น ยังพบปากใบอยู่บนผิวของผลได้ด้วยเช่นกัน เช่น ผิวของผลมังคุด การลำเลียงธาตุอาหารที่อาศัยการไหลไปกับกระแสของการคายน้ำ เมื่อปากใบของผิวผลปิดแคบลง ในช่วงที่ฝนตกชุก (ไอน้ำในอากาศมีมาก ไม่มีแรงขับเคลื่อนให้น้ำไหลออกจากต้นพืช) ทำให้ธาตุอาหารไม่สามารถส่งไปได้เพียงพอกับการสร้างผนังเซลล์ของผลที่กำลังขยายขนาด จึงทำให้เซลล์แตกและเกิดอาการเนื้อแก้วยางไหลของผลมังคุด

การคายน้ำของพืช พืชจะคายน้ำสูบรรยากาศโดย 2 ช่องทาง คือ

  1. คายน้ำผ่านทางปากใบ
  2. คายน้ำผ่านทางรอยแตกที่ผิวของลำต้น

หน้าที่สำคัญของปากใบคืออะไร?

            เรามักจะเข้าใจในวิวัฒนาการของพืช stoma ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการคายน้ำ (transpiration) แต่หน้าที่หลักที่แท้จริงของ stomata คือการแลกเปลี่ยนก๊าซ (gas exchange) เนื่องจากพืชบกมีวิวัฒนาการในการสร้างชั้น cuticle (คิวติเคิล) เคลือบปิดผนังเซลล์ด้านนอกของ epidermal cell (เซลล์ผิว) เอาไว้ เพื่อลดอัตราการสูญเสียน้ำจากโครงสร้างภายในออกสู่บรรยากาศภายนอก เพราะพืชบกจำเป็นต้องรักษาระดับปริมาณน้ำภายในเซลล์เอาไว้ให้พอดีที่เซลล์จะรักษาแรงดันเต่งเอาไว้ได้ และทำให้เซลล์ทำงานได้ตามปกติ แต่ cuticle ก็ป้องกันไม่ให้ก๊าซภายนอกแพร่เข้าสู่โครงสร้างภายในของพืชด้วยเช่นกัน ดังนั้นพืชจำเป็นต้องมีช่องทางที่จะแลกเปลี่ยนก๊าซ เพื่อนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จำเป็นต้องใช้ใน photosynthesis (กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง) เข้ามา
stomta คือโครงสร้างที่วิวัฒนาการมาเพื่อหน้าที่นี้แต่เมื่อ stomata เปิดทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซ ย่อมเป็นช่องทางที่ทำให้ไอน้ำภายในโครงสร้างระเหยออกมาสู่บรรยากาศภายนอกได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้เกิดกลไกของการคายน้ำทางปากใบ และเป็นสาเหตุทำให้เกิด transpiration pull (แรงดึงจากการคายน้ำ) เกิดขึ้นภายในเนื้อเยื่อท่อลำเลียงน้ำ และดูน้ำจากรากให้ลำเลียงขึ้นมาเป็นสายสู่ด้านบนได้

ปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการเปิด-ปิด ของปากใบ

ปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการเปิด-ปิด ของปากใบ แต่เป็นผลกระทบที่ไม่ถาวร ได้แก่

  • แสง
  • ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ภายในเซลล์
  • อุณหภูมิของใบ
  • ค่าแรงดึงระเหยน้ำของอากาศ (VPDair)


#HW6
รายชื่อนักเรียนที่ทำแบบทดสอบ


#HW5 (งานกลุ่ม)

#HW4

#HW3
ให้นักเรียนคัดลอกลงสมุด
ภาพที่ 1 

ภาพที่ 2
 

ภาพที่ 3 

ภาพที่ 4 



#HW2


#HW1


คำอธิบายรายวิชา

ว๓๐๒๕๒  ดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต                                             กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์         

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๒                             เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต

 

          ศึกษาเซลล์และองค์ประกอบสําคัญของเซลล์ การลําเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์  การรักษาดุลยภาพของน้ำในพืช การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุในสัตว์ต่างๆ รวมทั้งในคน การรักษาดุลยภาพของกรด-เบส อุณหภูมิในร่างกายคน การป้องกันและกําจัดเชื้อโรคของร่างกาย การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน

          โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและสรุป

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม 

ผลการเรียนรู้

          ๑. ทดลองและอธิบายการรักษาดุลยภาพของเซลล์ของสิ่งมีชีวิต

          ๒. ทดลองและอธิบายกลไกการรักษาดุลยภาพของน้ำในพืช

          ๓. สืบค้นข้อมูลและอธิบายกลไกการควบคุมดุลยภาพของน้ำ แร่ธาตุ และอุณหภูมิของมนุษย์
และสัตว์อื่น

          ๔. อธิบายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและนำความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพ

          ๕. นำข้อมูลจากการสังเกต การสืบค้น การสำรวจตรวจสอบ หรือการทดลอง มาใช้เป็นหลักฐานหรือประจักษ์พยานอ้างอิงในการตอบคำถาม หรือสร้างคำอธิบายต่างๆ

          ๖. เชื่อมโยง วิเคราะห์ สังเคราะห์ คำอธิบายหรือคำตอบของคำถามต่างๆ อย่างมีเหตุผล เพื่อไปสู่องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของแนวความคิดหลัก หลักการ หรือทฤษฎี

          ๗. อธิบาย นำเสนอ เพื่อสื่อสารองค์ความรู้ไปยังผู้อื่นอย่างมีเหตุผล ด้วยความรอบรู้เกี่ยวกับหลักวิชาการ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความรอบคอบที่จะนำความรู้ในสาขาต่างๆ มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน นำเสนอข้อมูลด้วยความเป็นจริง ด้วยวิธีการต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและน่าสนใจ

รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรียนรู้